วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

คำถามคณิตศาสตร์

คนที่มีผม 1 เส้น แน่นอน เราเรียกว่าคนหัวล้าน
คนที่มีผม 2 เส้น แน่นอน เราเรียกว่าคนหัวล้าน
คนที่มีผม 3 เส้น แน่นอน เราเรียกว่าคนหัวล้าน
พูดง่ายๆก็คือ
ถ้าคนมีผม n เส้น เป็นคนหัวล้านแล้ว (โดยที่ n= 1, 2, 3, ...)
คนที่มีผม n+1 เส้นก็ต้องเป็นคนหัวล้านด้วย (เนื่องจาก n+1 แทบไม่ต่างกับ n เลย)

สรุป
จากประโยคที่ว่า
"คนที่มีผม 1 เส้น แน่นอน เราเรียกว่าคนหัวล้าน"
ซึ่ง 1 = n จึงทำให้
คนที่มีผม n เส้น ถือว่าเป็นคนหัวล้าน
ดังนั้นจึงถือว่าทุกคนเป็นคนหัวล้าน ^-^

4 สูตรคณิตศาสตร์ คิดไวกว่าลิง

4 สูตรคณิตศาสตร์ คิดไวกว่าลิง

สูตรแรก เทคนิคการคูณด้วย 5, 9, 11 ทั้ง 3 เทคนิคมีวิธีคล้ายๆ กัน คือการเติม 0 ที่ตัวตั้ง คิดไวมากๆ
1) การคูณด้วยแม่ 5 เติม 0 ที่ท้ายตัวตั้ง จากนั้นหาร 2 เช่น
18 x 5 = ?
เติม 0 ที่ท้ายตัวตั้ง เป็น 180
จากนั้นหาร 2 (180 / 2) เหลือ 90 ปิ๊งๆ ลองใช้เครื่องคิดเลขตามดู ผลลัพธ์ออกมาใช่เลย ลองดูอีกข้อค่ะ
27 x 5 = ?
เติม 0 ท้ายตัวตั้ง เป็น 270
หาร 2 (270 / 2) เหลือ 135
2) การคูณด้วยแม่ 9 เติม 0 ที่ท้ายตัวตั้ง จากนั้นลบด้วยตัวตั้งอีกรอบค่ะ
24 x 9 = ?
เติม 0 ท้ายตัวตั้ง เป็น 240
ลบด้วยตั้งตั้ง ( 240 - 24 ) เหลือ 216
3) การคูณด้วยแม่ 11 เติม 0 ที่ท้ายตัวตั้ง จากนั้นบวกด้วยตัวตั้งอีกรอบ
14 X 11 = ?
เติม 0 ท้ายตัวตั้ง เป็น 140
บวกด้วยตัวตั้ง (140 + 14 ) เป็น 154
แต่เทคนิคการคูณด้วยแม่ 11 ยังมีอีกวิธี อาจจะง่ายกว่าด้วยซ้ำ ลองดูค่ะ
จากโจทย์เดิม 14 x 11
เอาเลขตั้งต้นมาวางไว้ แล้วเว้นไว้ช่องตรงกลาง เป็น 1__4
ช่องที่เว้นไว้ เป็นผลลัพธ์ของเลขตั้งต้นที่เอามาบวกกัน คือ 1+4 = 5 จากนั้นเอาไปเติมตรงกลางเป็น 154 เห็นมั้ยว่า ได้คำตอบเท่ากันเลย ลองมาดูวิธีการช้าๆ อีกรอบนึงค่ะ
14 x 11 = 1_(1+4)_4 = 154 นั่นเอง
ลองตัวเลขอื่น เช่น
17 x 11 = 1_(1+7)_7 = 187 ปลอกกล้วยยังนานกว่าเลยอะ ฮ่า

แต่ถ้าเลขข้างหน้าบวกกันแล้วเกิน 10 ก็ให้น้องๆ เอาหลักสิบที่เกินไปทดที่ตัวหน้าค่ะ เช่น
48 x 11 = 4_(4+8)_8
= 4_(12)_8 <-- เอาเลข 1 ออกไปบวกกับตัวหน้าสุด ส่วนเลข 2 คงที่ไว้
= 528 ลองเช็คผลดูได้เลยว่าตรงมั้ย

สูตรที่สอง ผลคูณของเลขยกกำลังสอง ที่ลงท้ายด้วย 5 เช่น 15x15,25x25,35x35

ให้น้องๆ เขียนเลข 25 ไว้ท้ายสุด เพราะเป็นผลคูณของ 5 x 5 ดังนี้ ....25 หลังจากนั้น เอาเลขข้างหน้าคูณกับจำนวนที่มากกว่า 1 แล้วเขียนลงไป เช่น
25 x 25 = ?
เขียน 25 ลงไปก่อนเลยข้างหลัง .....25
เอาเลขตัวหน้าคูณกับจำนวนที่มากกว่าอยู่ 1 (เลขตัวหน้าเป็น 2 จึงต้องคูณกับ 3) ได้ = (2 x 3)..25
ผลลัพธ์ 625
ลองข้อต่อไปค่ะ 45 x 45 = .....25
= ( 4 x 5 )25
= 2025
------------------------------------------------
สูตรที่สาม วิธีบวกเลขหลายๆ หลัก บางครั้งเวลาเราเจอเลขหลายๆ หลัก เรามักจะตั้งเลขเป็นแนวตั้งแล้วค่อยบวก แต่ในความเป็นจริง เห็นเลขแนวนอนก็บวกได้แล้ว

วิธีง่ายๆ แค่น้องๆ มองตัวเลขแล้วแบ่งกลุ่มเป็นหลักพัน หลักร้อย หลักสิบ หลักหน่วย เช่น
734 + 284 = (700+200) + (30+80) + (4+4)
= 900 + 110 + 8
= 1,018

-----------------------------------------------------

สูตรที่สี่ การลบเลขออกจากเลขกลมๆ บางครั้งการลบเลขออกจากตัวตั้งเลขกลมๆ คงเกิดอาการมึนขึ้นได้ เพราะต้องมีการยืมเลขกันตั้งแต่หลักหน่วย ทดกันไปทดกันมา แต่มีวิธีที่ง่ายกว่านั้น เพียงแค่เราปัดลงจากเลขกลมๆ ให้เหลือเป็นเลข 9 เช่น 1,000 เป็น 999 10,000 เป็น 9,999 เมื่อได้ผลลัพธ์ก็บวกขึ้นมาอีก 1 ลองดูค่ะ ว่าคิดเร็วกว่าจริงๆ มองแป๊บเดียวไม่ต้องทด ก็แทบจะได้คำตอบออกมาทันที

ตัวอย่างเช่น
10,000 - 4,237 = 9,999 - 4,237 <<-- ลบกันง่ายมาก เพราะไม่ต้องมีการยืมเลขข้างหน้ามาทดเลย เพราะเลข 9 เป็นเลขที่สูงที่สุด
= 5,762 + 1 (ได้ผลลัพธ์แล้ว เอาเลข 1 ที่หักออกไป เข้ามาบวกเหมือนเดิม)
= 5,763
เห็นมั้ยคะ แค่ 2 วิก็ได้คำตอบแล้ว

cr.http://www.dek-d.com/education/25872/

admin yuki

วิธีการจดจำสูตรต่างๆ ทางคณิตศาสตร์

วิธีการจดจำสูตรต่างๆ ทางคณิตศาสตร์

ดังนั้น หลักการในการจำสูตร หลังจากเรียน คณิตศาตร์ และสอนมาเป็นเวลานาน พอจะสรุปเทคนิคได้ ดังนี้
1. สัมผัสด้วยตา คือ อ่านสูตร เหล่านั้น ด้วยวิธีการมอง
2. สัมผัสด้วย ปาก คือ อ่านสูตรออกเสียงหลายๆครั้ง และต้องอ่านให้ถูกต้องตามหลักคณิตศาสตร์
3. สัมผัสด้วย หู คือ เมื่ออ่านแล้ว หูก็ฟังให้คุ้นๆไว้ สังเกตเมื่อเราไปเรียนพิเศษ แล้วดูเทปการสอน
ที่พูดซ้ำไปมา เราฟังบ่อยๆ ก็เริ่มจำได้
4. สัมผัสด้วยมือ คือ การเขียนสูตรเหล่านั้น ซ้ำๆหลายๆครั้ง
5. สัมผัสด้วยสมอง คือ พยายามทำความเข้าใจ กับสูตรเหล่านั้น หาวิธีการจดจำ ที่เป็นจินตนาการของเราเอง
สังเกตว่า ถ้าเรามีเทคนิคการจำของเราเอง จะจดจำได้ง่าย และนาน รวมถึงอาจต้องเข้าใจที่มาสูตร จะทำให้เข้าสมอง มากขึ้น
6. สัมผัสด้วยการนำไปใช้ คื หัดทำโจทย์ ที่ต้องมีการใช้สูตรเหล่านั้น บ่อยๆ จนเข้าใจจำได้ขึ้นใจ


cr.http://www.vcharkarn.com/vcafe/140776

admin yuki

คณิตศาสตร์

คณิตศาสตร์

This page has some issues
เว็บย่อ:
math
ยูคลิด นักคณิตศาสตร์ชาวกรีก ในสมัย 300 ปีก่อนคริสตกาล ภาพวาดของราฟาเอลในชื่อโรงเรียนแห่งเอเธนส์
คณิตศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่มุ่งค้นคว้าเกี่ยวกับ โครงสร้างนามธรรมที่ถูกกำหนดขึ้นผ่านทางกลุ่มของสัจพจน์ซึ่งมีการให้เหตุผลที่แน่นอนโดยใช้ตรรกศาสตร์สัญลักษณ์ และสัญกรณ์คณิตศาสตร์ เรามักนิยามโดยทั่วไปว่าคณิตศาสตร์เป็นสาขาวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับ ปริมาณ(จำนวนโครงสร้าง ปริภูมิ และ การเปลี่ยนแปลง กล่าวคร่าวๆ ได้ว่าคณิตศาสตร์นั้นสนใจ "รูปร่างและจำนวน" เนื่องจากคณิตศาสตร์มิได้สร้างความรู้ผ่านกระบวนการทดลอง บางคนจึงไม่จัดว่าคณิตศาสตร์เป็นสาขาของวิทยาศาสตร์
คำว่า "คณิตศาสตร์" (คำอ่าน: คะ-นิด-ตะ-สาด) มาจากคำว่า คณิต (การนับหรือ คำนวณ) และ ศาสตร์ (ความรู้ หรือ การศึกษา) ซึ่งรวมกันมีความหมายโดยทั่วไปว่า การศึกษาเกี่ยวกับการคำนวณ หรือ วิชาที่เกี่ยวกับการคำนวณ. คำนี้ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า mathematics มาจากคำภาษากรีก μάθημα (máthema) แปลว่า "วิทยาศาสตร์, ความรู้, และการเรียน" และคำว่า μαθηματικός (mathematikós) แปลว่า "รักที่จะเรียนรู้". ในอเมริกาเหนือนิยมย่อ mathematics ว่า math ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษนิยมย่อว่า maths
ในอดีตผู้คนจะใช้สิ่งของแทนจำนวนที่จะนับยิ่งนานเข้าจำนวนประชากรยิ่งมีมากขึ้น ทำให้ผู้คนเริ่มคิดที่จะประดิษฐ์ตัวเลขขึ้นมาแทนการนับที่ใช้สิ่งของนับแทนจากนั้นก็มีการบวก ลบคูณ และหาร จากนั้นก็ก่อให้เกิดคณิตศาสตร์ ความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ผ่านทางการวิจัยและการประยุกต์ใช้ คณิตศาสตร์เป็นเครื่องมืออันหนึ่งของวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม การคิดค้นทางคณิตศาสตร์ไม่จำเป็นต้องมีเป้าหมายอยู่ที่การนำไปใช้ทางวิทยาศาสตร์ (ดู คณิตศาสตร์บริสุทธิ์และคณิตศาสตร์ประยุกต์)
โครงสร้างต่างๆ ที่นักคณิตศาสตร์สนใจและพิจารณานั้น มักจะมีต้นกำเนิดจากวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และสังคมศาสตร์ โดยเฉพาะฟิสิกส์ และเศรษฐศาสตร์. ปัญหาทางคณิตศาสตร์ในปัจจุบัน ยังเกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้ในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และทฤษฎีการสื่อสาร อีกด้วย
เนื่องจากคณิตศาสตร์นั้นใช้ตรรกศาสตร์สัญลักษณ์และสัญกรณ์คณิตศาสตร์ ซึ่งทำให้กิจกรรมทุกอย่างกระทำผ่านทางขั้นตอนที่ชัดเจน เราจึงสามารถพิจารณาคณิตศาสตร์ว่า เป็นระบบภาษาที่เพิ่มความแม่นยำและชัดเจนให้กับภาษาธรรมชาติ ผ่านทางศัพท์และไวยากรณ์บางอย่าง สำหรับการอธิบายและศึกษาความสัมพันธ์ทั้งทางกายภาพและนามธรรม. ความหมายของคณิตศาสตร์นั้นยังมีอีกหลายมุมมอง ซึ่งหลายอันถูกกล่าวถึงในบทความเกี่ยวกับปรัชญาของคณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์ยังถูกจัดว่าเป็นศาสตร์สัมบูรณ์ โดยจำไม่เป็นต้องมีการอ้างถึงใดๆ จากโลกภายนอก. นักคณิตศาสตร์กำหนดและพิจารณาโครงสร้างบางประเภท สำหรับใช้ในคณิตศาสตร์เองโดยเฉพาะ, เนื่องจากโครงสร้างเหล่านี้ อาจทำให้สามารถอธิบายสาขาย่อยๆ หลายๆ สาขาได้ในภาพรวม หรือเป็นประโยชน์ในการคำนวณพื้นฐาน
นอกจากนี้ นักคณิตศาสตร์หลายคนก็ทำงานเพื่อเป้าหมายเชิงสุนทรียภาพเท่านั้น โดยมองว่าคณิตศาสตร์เป็นศาสตร์เชิงศิลปะมากกว่าที่จะเป็นศาสตร์เพื่อการนำไปประยุกต์ใช้ (ดังเช่น จี. เอช. ฮาร์ดี ที่ได้กล่าวไว้ในหนังสือ A Mathematician's Apology) ; แรงผลักดันในการทำงานเช่นนี้ มีลักษณะไม่ต่างไปจากที่กวีและนักปรัชญาได้ประสบ และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้. อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวว่า คณิตศาสตร์เป็นราชินีของวิทยาศาสตร์ ในหนังสือ Ideas and Opinions ของเขา
องค์ความรู้ในคณิตศาสตร์รวมกันเป็นสาขาวิชา หลักการเบื้องต้นที่เริ่มจากเลขคณิตไปยังการประยุกต์ใช้งานพื้นฐานของสาขาคณิตศาสตร์ ที่รวมพีชคณิต เรขาคณิต ตรีโกณมิติ สถิติศาสตร์ และแคลคูลัส เป็นหลักสูตรแกนในการศึกษาขั้นพื้นฐาน แม้ว่าจะได้มีการพัฒนาและขยายขอบเขตไปอย่างมากมายในช่วงเวลาหลายร้อยปี สาขาวิชาคณิตศาสตร์ยังคงถูกจัดว่าเป็นสาขาวิชาเดี่ยว ที่มีลักษณะแตกต่างจากสาขาอื่นๆ

ประวัติEdit

พัฒนาการ

นักคณิตศาสตร์กรีกพีทาโกรัส (ค.ศ. 570 - ค.ศ. 495 ก่อนคริสต์ศักราช)ได้รับการยกย่องในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบทฤษฎีบทพีทาโกรัส (Pythagorean theorem)
วิวัฒนาการของคณิตศาสตร์อาจถูกมองว่าเป็นชุดของการเพิ่มขึ้นของภาวะนามธรรมหรืออาจเป็นการขยายตัวของวิชาที่เกี่ยวกับสสาร ภาวะนามธรรมที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนั้น, มีส่วนเกี่ยวข้องกับสัตว์หลาย ๆ ชนิด, [1] เป็นความน่าจะเป็นที่เกี่ยวข้องกับจำนวน

หัวข้อทางคณิตศาสตร์Edit

รายการด้านล่างนี้ แสดงลักษณะหนึ่งของการแบ่งย่อยของหัวข้อทางคณิตศาสตร์เท่านั้น สำหรับการแบ่งหัวข้อตาม 2000 Mathematics Subject Classification (MSC2000) ดู: สาขาของคณิตศาสตร์

ปริมาณ

โดยทั่วไป หัวข้อและแนวคิดเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการวัดขนาดของตัวเลข หรือเซต หรือว่าวิธีการวัดค่าดังกล่าว
1, 2, 3\, \!-2, -1, 0, 1, 2\, \! -2, \frac{2}{3}, 1.21\, \!-e, \sqrt{2}, 3, \pi\, \!2, i, -2+3i, 2e^{i\frac{4\pi}{3}}\, \!
จำนวนธรรมชาติจำนวนเต็มจำนวนตรรกยะจำนวนจริงจำนวนเชิงซ้อน
จำนวน - จำนวนธรรมชาติ - จำนวนเต็ม - จำนวนตรรกยะ - จำนวนจริง - จำนวนเชิงซ้อน - จำนวนเชิงพีชคณิต - ควอเทอร์เนียน - ออคโทเนียน (Octonions) - จำนวนเชิงอันดับที่ (ordinal number) - จำนวนเชิงการนับ - ลำดับของจำนวนเต็ม - ค่าคงที่ทางคณิตศาสตร์ - อนันต์

โครงสร้าง

สาขาเหล่านี้ ศึกษาขนาดและความสมมาตรของจำนวนและวัตถุทางคณิตศาสตร์ต่างๆ
Elliptic curve simple.pngRubik's cube.svgGroup diagdram D6.svgLattice of the divisibility of 60.svg
ทฤษฎีจำนวนพีชคณิตนามธรรมทฤษฎีกรุปทฤษฎีลำดับ
พีชคณิตนามธรรม - ทฤษฎีจำนวน - ทฤษฎีกรุป - ทอพอโลยี - พีชคณิตเชิงเส้น - ทฤษฎีประเภท (Category theory) - ทฤษฎีลำดับ (Order theory)

ความสัมพันธ์เชิงปริภูมิ

สาขาเหล่านี้ มักใช้วิธีการเชิงรูปภาพมากกว่าในสาขาอื่นๆ
Illustration to Euclid's proof of the Pythagorean theorem.svgSine cosine plot.svgHyperbolic triangle.svgTorus.pngKoch curve.svg
เรขาคณิตตรีโกณมิติเรขาคณิตเชิงอนุพันธ์ทอพอโลยีเรขาคณิตสาทิสรูป
ทอพอลอยี - เรขาคณิต - ตรีโกณมิติ - เรขาคณิตเชิงพีชคณิต - เรขาคณิตเชิงอนุพันธ์ - ทอพอโลยีเชิงอนุพันธ์ - ทอพอโลยีเชิงพีชคณิต - พีชคณิตเชิงเส้น - เรขาคณิตสาทิสรูป

ความเปลี่ยนแปลง

หัวข้อเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับการวัดความเปลี่ยนแปลงของฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ และความเปลี่ยนแปลงระหว่างจำนวน
Integral as region under curve.svgVector field.svgAirflow-Obstructed-Duct.pngLimitcycle.jpgLorenz attractor.svg
แคลคูลัสแคลคูลัสเวกเตอร์สมการเชิงอนุพันธ์ระบบพลวัติทฤษฎีความอลวน
เลขคณิต - แคลคูลัส - แคลคูลัสเวกเตอร์ - คณิตวิเคราะห์ - ทฤษฎีการวัด - การวิเคราะห์เชิงฟังก์ชัน - การวิเคราะห์เชิงจินตภาพ - การวิเคราะห์ฟูร์ริเยร์ - สมการเชิงอนุพันธ์ - ระบบพลวัติ - ทฤษฎีความอลวน - รายการฟังก์ชัน

พื้นฐานและวิธีการ

หัวข้อเหล่านี้คือแนวทางการเข้าถึงคณิตศาสตร์และมีอิทธิพลต่อวิธีที่นักคณิตศาสตร์ใช้ในการศึกษา
 p \Rightarrow q \, Venn A intersect B.svgCommutative diagram for morphism.svg
ตรรกศาสตร์ทฤษฎีเซตทฤษฎีประเภท
ปรัชญาคณิตศาสตร์ - พื้นฐานคณิตศาสตร์ (Foundations of mathematics) - ทฤษฎีเซต - ตรรกศาสตร์สัญลักษณ์ - ทฤษฎีโมเดล - ทฤษฎีประเภท - ตรรกศาสตร์

วิยุตคณิต

วิยุตคณิต คือแขนงของคณิตศาสตร์ที่สนใจวัตถุที่มีค่าเฉพาะเจาะจงที่แตกต่างกัน
\begin{matrix} (1, 2, 3) & (1, 3, 2) \\ (2, 1, 3) & (2, 3, 1) \\ (3, 1, 2) & (3, 2, 1) \end{matrix}DFAexample.svgCaesar3.svg6n-graf.svg
คณิตศาสตร์เชิงการจัดทฤษฎีการคำนวณวิทยาการเข้ารหัสลับทฤษฎีกราฟ
คณิตศาสตร์เชิงการจัด - ทฤษฎีการคำนวณ - วิทยาการเข้ารหัสลับ - ทฤษฎีกราฟ

คณิตศาสตร์ประยุกต์

สาขาในคณิตศาสตร์ประยุกต์ ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาในโลกของความเป็นจริง
คณิตศาสตร์ฟิสิกส์ - กลศาสตร์ - กลศาสตร์ของไหล - การวิเคราะห์เชิงตัวเลข - การหาค่าเหมาะที่สุด (Optimization) - ความน่าจะเป็น - สถิติศาสตร์ - คณิตศาสตร์การเงิน - ทฤษฎีเกม - คณิตชีววิทยา (Mathematical biology) -วิทยาการเข้ารหัสลับ - ทฤษฎีข้อมูล - ทฤษฎีระบบควบคุม

ทฤษฎีบทที่สำคัญ

ทฤษฎีบทเหล่านี้ เป็นที่สนใจของทั้งนักคณิตศาสตร์และบุคคลทั่วไป
ทฤษฎีบทพีทาโกรัส - ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา - ทฤษฎีบทความไม่สมบูรณ์ของเกอเดล - ทฤษฎีบทมูลฐานของเลขคณิต - ทฤษฎีบทมูลฐานของพีชคณิต - ทฤษฎีบทมูลฐานของแคลคูลัส - วิธีการแนวทแยงของคันทอร์ - ทฤษฎีบทสี่สีบทตั้งของซอน (Zorn's lemma) - เอกลักษณ์ของออยเลอร์ - ข้อปัญหาของเชิร์ช-ทัวริง - ทฤษฎีบทการจำแนกของพื้นผิว (classification theorems of surfaces) - ทฤษฎีบทเกาส์-โบนเนต์ (Gauss-Bonnet theorem)

ข้อความคาดการณ์ที่สำคัญ

ปัญหาคณิตศาสตร์ที่ยังไม่มีใครแก้ได้
ข้อความคาดการณ์ของโกลด์บาช - ข้อความคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝด - สมมติฐานของรีมันน์ - สมมติฐานความต่อเนื่อง - ข้อความคาดการณ์ของปวงกาเร - P=NP? - ปัญหาของฮิลแบร์ท

ประวัติและโลกของนักคณิตศาสตร์

ประวัติของคณิตศาสตร์ - เส้นเวลาของคณิตศาสตร์ - นักคณิตศาสตร์ - เหรียญฟิลด์ส (Fields Medal) - รางวัลอาเบล(Abel Prize) - ปัญหารางวัลสหัสวรรษ (รางวัลเคลย์แมท) (Millennium Prize Problems (Clay Math Prize)) - สหภาพคณิตศาสตร์นานาชาติ (International Mathematical Union) - การแข่งขันคณิตศาสตร์ - การคิดเชิงข้าง (Lateral thinking) - ประเด็นเกี่ยวกับความสามารถทางคณิตศาสตร์และเพศ (Mathematical abilities and gender issues)

เครื่องมือทางคณิตศาสตร์Edit

อ้างอิงEdit

  1. S. Dehaene; G. Dehaene-Lambertz; L. Cohen (Aug 1998). "Abstract representations of numbers in the animal and human brain". Trends in Neuroscience 21 (8): 355–361.doi:10.1016/S0166-2236(98)01263-6PMID 9720604.

ดูเพิ่มEdit